HPV: ไวรัสร้ายที่ต้องรู้จัก ต้นเหตุมะเร็งปากมดลูกที่สามารถป้องกันและกำจัดได้
🤔 HPV คืออะไร และมีความเสี่ยงอย่างไร?
ไวรัส HPV (Human Papillomavirus) เป็นเชื้อไวรัสที่ติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์และสามารถก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปากมดลูก ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะก่อนมะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งปากมดลูกได้ในระยะยาว โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น HPV 16 และ 18 ที่เป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูกถึง 70%
🤔 อาการของการติดเชื้อ HPV
การติดเชื้อ HPV ส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการ ผู้ที่ติดเชื้ออาจไม่รู้ตัวเลยจนกว่าจะเข้ารับการตรวจคัดกรอง อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีอาจสัมพันธ์กับอาการดังต่อไปนี้:
🔸หูดบริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งบ่งบอกการติดเชื้อ HPV ชนิด 6 และ 11
🔸 ผลตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกผิดปกติ ซึ่งสามารถใช้เทคนิกการตรวจ pap smear ซึ่งมีความไวในการตรวจพบเซลล์ปกติต่ำที่สุด หรือ Liquid based cytology หรือ liquid based หรือ thin prep technique ดังนั้นสาวๆที่ได้รับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกแล้วอย่านิ่งนอนใจ ยังคงจำเป็นต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุก 2-3 ปีนะคะ
🔸มีเลือดออกกระปริบกระปรอย หรือเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์จากการอักเสบของของเซลล์ที่ปากมดลูก
🤔 ปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อ HPV
🔸 มีคู่นอนหลายคนหรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
🔸 มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
🔸 ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ที่ติดเชื้อ HIV หรือผู้ที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
🔸 การสูบบุหรี่ ซึ่งส่งผลต่อเซลล์ปากมดลูกและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของเซลล์
🔸 ขาดการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ
🔸 การใช้ยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน (มากกว่า 5 ปี) อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงเซลล์ปากมดลูก
🤔 การดำเนินโรคก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก
โดยปกติเมื่อร่างกายติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง เชื้อสามารถหายไปได้เองในบางกรณี แต่หากระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถกำจัดเชื้อได้ เชื้อ HPV จะยังคงอยู่และอาจกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปากมดลูกไปสู่ภาวะก่อนมะเร็ง (Cervical Intraepithelial Neoplasm;CIN1, CIN2, CIN3) และอาจพัฒนาเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
🤔 วิธีการตรวจและติดตามผล
🔸 Pap Smear และ HPV DNA Test: ตรวจคัดกรองเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปากมดลูกและคัดกรองการติดเชื้อ HPV
🔸 Colposcopy: การส่องกล้องตรวจปากมดลูก เมื่อพบผลตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกผิดปกติ หรือร่วมกับการพบการติดเชื้อ HPV ที่เป็นสายพันธ์ก่อให้เกิดมะเร็งสูง
🔸 การตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจสอบว่าเซลล์มีการเปลี่ยนแปลงเป็นมะเร็งหรือไม่ (cervical biopsy) โดยเป็นหัตถการที่ทำร่วมกับการตรวจ colposcopy
🔸 หากมีการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในระดับที่ใกล้เคียงกับการเกิดมะเร็งปากมดลูกมาก แพทย์อาจมีความจำเป็นให้ทำการรักษาต่อ โดยการตัดปากมดลูกด้วยไฟฟ้า หรือการตัดมดลูกตามแต่ละกรณี
🤔 ในปัจจุบัน เทคโนโลยีการตรวจคัดกรองการติดเชื้อ HPV ล้ำหน้าและแพร่หลาย สาวๆสามารถทำการตรวจด้วยตนเองได้ (self-HPV test) อย่างไรก็ตามเมื่อตรวจพบการติดเชื้อ HPV แล้วอย่าพึงตกใจไป แนะนำให้พบสูตินรีแพทย์ เพื่อทำการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก และตรวจร่างกายดูรอยโรคที่ปากมดลูก และอาจพิจารณาตรวจ HPV DNA ซ้ำ เพื่อความแม่นยำ และถูกต้องของผลการตรวจก่อนเริ่มการรักษา
🤔 สำหรับสาวๆที่ตรวจพบเชื้อ HPV สามารถดูแลตนเอง เพื่อช่วยกำจัดเชื้อ HPV ออกจากร่างกาย
ปัจจุบัน มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสารประกอบที่สามารถช่วยฟื้นฟูและปรับสมดุลเซลล์เยื่อบุปากมดลูก ทำให้ร่างกายสามารถกำจัดเชื้อ HPV ได้เร็วขึ้น เช่น:
🔸 กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid): มีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและลดการอักเสบของเซลล์เยื่อบุปากมดลูก
🔸 โพลีแซคคาไรด์จากพืช (Plant-Derived Polysaccharides): ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันและส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย
🔸 Carboxymethyl β-glucan: จากผลการศึกษาพบว่าเจลที่มีสารประกอบนี้สามารถช่วยฟื้นฟูเยื่อบุปากมดลูกและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในผู้ติดเชื้อ HPV โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะ CIN1 ผ่านกลไก
✅ ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์เยื่อบุปากมดลูก – ทำให้เซลล์ที่เสียหายจากการติดเชื้อ HPV ฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
✅ ลดภาวะอักเสบ – ช่วยปรับสมดุลจุลชีพในช่องคลอด ลดการอักเสบและความเสียหายของเนื้อเยื่อ
✅ ช่วยป้องกันการลุกลามของความผิดปกติในปากมดลูก – ลดโอกาสที่ความผิดปกติระดับ LSIL (Low-grade Squamous Intraepithelial Lesion) จะพัฒนาไปสู่ระดับ HSIL (High-grade Squamous Intraepithelial Lesion)
🔸 จากผลการศึกษา โดย Stentella P, et al ในประเทศอิตาลีในปี 2017 เผยแพร่ในวารสารทางการแพทย์ Minerva Ginecol. 2017พบว่า การใช้เจลที่มีส่วนประกอบของ Carboxymethyl β-glucan (colpofix) เป็นการรักษาเสริมในผู้ติดเชื้อ HPV และช่วยให้การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ CIN1 มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยพบว่าไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง และสามารถใช้ร่วมกับการดูแลสุขภาพและรักษาด้วยวิธีอื่นๆได้
🔸 สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี และเบต้าแคโรทีน: ช่วยลดการอักเสบและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในการกำจัดเชื้อ HPV
🤔 แนวทางการป้องกันการติดเชื้อ HPV
🔸 วัคซีนป้องกัน HPV: แนะนำให้ฉีดในช่วงวัยรุ่น (9-26 ปี) แต่สามารถฉีดในผู้ใหญ่ได้เช่นกัน
🔸 การใช้ถุงยางอนามัย: ลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ HPV แม้ไม่สามารถป้องกันได้ 100%
🔸 การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ: เป็นวิธีสำคัญในการตรวจพบการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปากมดลูกตั้งแต่ระยะเริ่มต้น สามารถรักษาหายขาดก่อนระยะลุกลามเป็นมะเร็งได้
🔸 ดูแลสุขภาพโดยรวม: ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และงดสูบบุหรี่ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
🤔 สรุป
การติดเชื้อ HPV เป็นเรื่องที่พบได้บ่อย แต่สามารถจัดการได้หากมีการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ และดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม การใช้สารประกอบที่ช่วยฟื้นฟูเซลล์เยื่อบุปากมดลูกร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตสามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและเร่งกระบวนการกำจัดเชื้อ HPV ได้ ทำให้ลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะก่อนมะเร็งและมะเร็งปากมดลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
#HPVAwareness #StopHPV #HPVติดเชื้อ #HPVคืออะไร #มะเร็งปากมดลูก #รักษาHPV #colpofix #ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก #วัคซีนHPV #ฟื้นฟูปากมดลูก
อย่ารอช้า! ป้องกันก่อนเกิดปัญหา ตรวจเช็คสุขภาพของคุณและดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้! ทักปรึกษาทำนัดพบอาจารย์ได้ที่ LINE@andawinclinic
บทความโดยผศ.พญ. อรวิน วัลลิภากร วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568